ผู้เขียน หัวข้อ: โรคมะเร็งกระดูก (Bone Cancer)  (อ่าน 25 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 354
  • โพสขายของฟรี ติด google , ลงประกาศฟรี
    • ดูรายละเอียด
โรคมะเร็งกระดูก (Bone Cancer)
« เมื่อ: วันที่ 28 มกราคม 2025, 21:24:51 น. »
โรคมะเร็งกระดูก (Bone Cancer)

มะเร็งกระดูก (Bone Cancer) คือมะเร็งที่เกิดขึ้นที่กระดูกโดยตรง หรือเกิดจากการแพร่กระจายของมะเร็งชนิดอื่นมายังกระดูก สัญญาณบ่งบอกโรคมะเร็งกระดูกคือ ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บกระดูก และมีก้อนบวมแดงในบริเวณที่เป็น หากอาการรุนแรงอาจมีอาการกระดูกอ่อนแอและหกล้มง่าย มะเร็งกระดูกแม้จะพบไม่บ่อย แต่อาการอาจรุนแรงและทรุดลงได้อย่างรวดเร็ว

มะเร็งกระดูกบางชนิดพบเฉพาะในเด็ก และบางชนิดพบได้บ่อยในผู้ใหญ่ ทั้งนี้ มะเร็งกระดูกชนิดที่เกิดขึ้นที่กระดูกโดยตรงสามารถรักษาให้หายได้ หากเข้ารับการตรวจและรักษาแต่เนิ่น ๆ ก่อนที่อาการจะลุกลาม ซึ่งวิธีรักษาจะขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของมะเร็ง เช่น การให้เคมีบำบัด การฉายแสงและการผ่าตัด


อาการของมะเร็งกระดูก

อาการมะเร็งกระดูกที่พบได้บ่อยคืออาการเจ็บกระดูก โดยมักเริ่มจากอาการคล้ายฟกช้ำบริเวณกระดูกที่ได้รับผลกระทบจากมะเร็ง ซึ่งอาจเกิดขึ้นที่กระดูกบริเวณใดก็ได้ แต่ส่วนมากมักเกิดกับกระดูกแนวยาวอย่างแขนส่วนบนหรือขา

หลังจากนั้นจะเริ่มเจ็บอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานหรือเจ็บเป็นพัก ๆ มักเกิดขึ้นในตอนกลางคืนหรือขณะนั่งพัก ทั้งนี้ อาการเจ็บปวดดังกล่าวอาจทำให้สับสนกับโรคข้ออักเสบในผู้ใหญ่ และอาการปวดจากการเจริญเติบโตของร่างกายในส่วนกระดูกและข้อของเด็กได้

นอกจากอาการเจ็บแล้วยังอาจพบอาการบวมแดงจากการอักเสบ หรือสังเกตได้ถึงก้อนบวมรอบบริเวณดังกล่าว ซึ่งหากเป็นกระดูกที่อยู่ใกล้ข้อต่อ อาการบวมที่เกิดขึ้นอาจทำให้ข้อต่อเคลื่อนไหวได้ยาก และอาจส่งผลให้ผู้ป่วยบางรายมีกระดูกอ่อนแอลงจนแตกหักได้ง่ายเพียงหกล้มหรือได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ก็อาจทำให้ขาหักได้

อาการอื่นของโรคมะเร็งกระดูกที่พบรองลงมาได้แก่ อาการไข้สูง มีเหงื่อออก โดยเฉพาะช่วงกลางคืน และน้ำหนักลดลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ ดังนั้น เมื่อรู้สึกเจ็บที่กระดูกเป็นเวลานาน มีอาการรุนแรง หรือแย่ลง หรือหากวิตกกังวลกับอาการใด ๆ ข้างต้นที่กล่าวมา ควรปรึกษาแพทย์เพื่อความแน่ใจ แม้โอกาสเกิดมะเร็งกระดูกจะมีน้อยก็ตาม

สาเหตุของมะเร็งกระดูก

มะเร็งกระดูกแบ่งเป็น 2 ชนิดคือ

    มะเร็งกระดูกชนิดปฐมภูมิ คือเซลล์มะเร็งที่เริ่มก่อตัวบริเวณกระดูกตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย มักเกิดขึ้นในกระดูกที่มีลักษณะเป็นแนวยาว เช่น กระดูกแขนหรือกระดูกขา
    มะเร็งกระดูกชนิดทุติยภูมิ คือเซลล์มะเร็งที่มีต้นกำเนิดจากอวัยวะอื่น ซึ่งเกิดได้จากมะเร็งทุกชนิดที่เมื่อเข้าสู่ระยะท้ายจะแพร่กระจายมายังกระดูก แต่มะเร็งบางประเภท เช่น มะเร็งไทรอยด์ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งไต และมะเร็งต่อมลูกหมาก อาจกระจายมาที่กระดูกตั้งแต่ระยะต้น ๆ

สาเหตุของเซลล์มะเร็งที่ก่อตัวขึ้นบริเวณกระดูกหรือมะเร็งกระดูกชนิดปฐมภูมินั้นยังไม่ชัดเจน แต่ปัจจุบันทางการแพทย์พบว่าปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระดูกชนิดปฐมภูมิ มีดังนี้

    การรักษาโดยการใช้รังสี กระบวนการรักษาโรคอื่น ๆ ที่ผู้ป่วยต้องเผชิญกับรังสีมาก ๆ อาจทำให้เซลล์มะเร็งพัฒนาขึ้นในเซลล์กระดูกได้
    เป็นโรคเกี่ยวกับกระดูก เช่น โรคพาเจทของกระดูก (Paget's Disease) ซึ่งเป็นโรคความผิดปกติของพัฒนาการในเซลล์กระดูก เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งกระดูกในผู้ที่มีอายุ 50–60 ปี รวมถึงเนื้องอกในกระดูกอย่างโรค Ollier Disease ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งกระดูกเช่นกัน
    พันธุกรรม โรคทางพันธุกรรมที่ถ่ายทอดจากบรรพบุรุษนับเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งกระดูก เช่น โรคมะเร็งจอประสาทตาในเด็ก (Retinoblastoma) ความผิดปกติทางพันธุกรรมที่พบได้ยากอย่างกลุ่มอาการ Li-Fraumeni ที่นอกจากเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระดูกแล้วยังเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งชนิดอื่น ๆ อีกด้วย
    มะเร็งกระดูกชนิดทุติยภูมิซึ่งเป็นชนิดที่เซลล์มะเร็งไม่ได้เริ่มก่อตัวที่บริเวณกระดูกแต่เกิดจากการแพร่กระจายของมะเร็งจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมายังกระดูก เช่น มะเร็งเต้านมในระยะรุนแรงอาจทำให้เซลล์มะเร็งกระจายมาที่กระดูกได้

นอกจากนี้ โรคมะเร็งกระดูกแบ่งออกเป็นประเภทย่อยตามชนิดของเซลล์ที่พัฒนาเป็นเซลล์มะเร็ง และแต่ละชนิดยังพบได้ในแต่ละเพศแต่ละวัยแตกต่างกันไป ดังนี้


มะเร็งกระดูกออสทิโอซาร์โคมา (Osteosarcoma)

มะเร็งกระดูกออสทิโอซาร์โคมาเกิดขึ้นในเซลล์กระดูกและเป็นมะเร็งกระดูกที่พบได้บ่อยที่สุด พบได้ในเด็กโต วัยรุ่น และวัยผู้ใหญ่ตอนต้น หรือช่วงอายุ 10–19 ปี พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง กลุ่มผู้ป่วยที่มีอายุน้อยมักเป็นโรคนี้ที่บริเวณปลายกระดูกแนวยาวซึ่งกำลังเจริญเติบโต บริเวณที่เป็นมากที่สุดคือรอบ ๆ หัวเข่า และรองลงมาคือบริเวณกระดูกแขน


มะเร็งกระดูกคอนโดรซาร์โคม่า (Chondrosarcoma)

มะเร็งกระดูกคอนโดรซาร์โคม่าเกิดขึ้นในเซลล์กระดูกอ่อนที่ล้อมรอบหรือติดอยู่กับกระดูก เป็นชนิดที่พบบ่อยรองลงมาจากมะเร็งกระดูกออสทิโอซาร์โคมา มักเกิดกับบริเวณกระดูกเชิงกรานและสะโพก ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในผู้ป่วยอายุมากกว่า 40 ปี โดยพบผู้ป่วยมะเร็งกระดูกชนิดนี้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปีไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมะเร็งกระดูกคอนโดรซาร์โคม่านี้อาจพัฒนาไปอย่างรวดเร็วและรุนแรงหรือค่อย ๆ เติบโตอย่างช้า ๆ ก็ได้


มะเร็งกระดูกอีวิงซาร์โคม่า (Ewing Sarcoma)

มะเร็งกระดูกอีวิงซาร์โคม่าอาจเกิดขึ้นในกระดูกหรือเนื้อเยื่ออ่อนนุ่ม และยังเชื่อว่าเกิดขึ้นจากเนื้อเยื่อประสาทปฐมภูมิ เป็นมะเร็งกระดูกชนิดรุนแรงที่พบได้บ่อยที่สุดในเด็กอายุ 4–15 ปี พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง มักเป็นบริเวณส่วนกลางของกระดูกแนวยาวอย่างแขนหรือขา


การวินิจฉัยโรคมะเร็งกระดูก

ผู้ป่วยที่มาพบแพทย์จากสาเหตุปวดกระดูก เบื้องต้นแพทย์จะสอบถามอาการและตรวจบริเวณที่มีอาการ โดยดูว่าบวมหรือมีก้อนหรือไม่ รวมทั้งถามถึงความคล่องตัวของการเคลื่อนไหวบริเวณดังกล่าว  ลักษณะอาการเจ็บปวดที่รู้สึกอยู่ว่าเจ็บเป็นช่วง ๆ หรือมีอาการแย่ลงหรือไม่ จากนั้นแพทย์จึงจะพิจารณาวิธีที่จะใช้ในการวินิจฉัยเพิ่มเติม ดังนี้ 


การตรวจเอกซเรย์

การใช้รังสีถ่ายภาพกระดูกมักเป็นวิธีแรกที่เลือกนำมาใช้เพื่อตรวจดูความเสียหายของกระดูกที่อาจเกิดจากเซลล์มะเร็ง หรือดูว่ามีกระดูกงอกใหม่ที่เป็นผลจากมะเร็งหรือไม่ อีกทั้งยังตรวจสอบได้หากเป็นอาการเจ็บที่เกิดจากสาเหตุอื่นอย่างกระดูกหัก


การตรวจชิ้นเนื้อกระดูก (Biopsy)

นับเป็นวิธีที่แม่นยำที่สุดเพื่อนำมาวินิจฉัยโรค เพราะนำเอาตัวอย่างของกระดูกบริเวณดังกล่าวส่งตรวจผลทางห้องปฏิบัติการ การเจาะกระดูกนี้ยังช่วยบอกได้ด้วยว่าผู้ป่วยเป็นโรคกระดูกชนิดใด โดยการนำตัวอย่างกระดูกออกมาตรวจซึ่งทำได้ 2 วิธีคือ การใช้เข็มเจาะเข้าไปที่กระดูกและการผ่าตัด

กรณีที่แพทย์ตรวจวินิจฉัยด้วยวิธีข้างต้นแล้วพบมะเร็งกระดูก ขั้นต่อไปแพทย์มักจะประเมินระยะลุกลามของมะเร็งด้วยการใช้วิธีการตรวจต่อไปนี้


การทำ MRI Scan

วิธีการตรวจโดยใช้สนามแม่เหล็กไฟฟ้าทำให้เกิดภาพกระดูกและเนื้อเยื่ออ่อนต่าง ๆ ถือว่าเป็นวิธีที่สามารถช่วยประเมินขนาดและความรวดเร็วในการลุกลามของเซลล์มะเร็งภายในหรือรอบ ๆ กระดูก


การทำ CT Scan

การใช้รังสีเอกซเรย์ควบคู่กับเครื่องคอมพิวเตอร์ถ่ายภาพร่างกาย มักใช้เพื่อตรวจหาการแพร่กระจายของมะเร็งที่อาจลุกลามไปยังปอด


การสแกนกระดูก

วิธีนี้จะช่วยให้แพทย์ตรวจดูภายในของกระดูกได้ว่ามะเร็งแพร่กระจายไปยังกระดูกส่วนใดบ้าง การใช้วัสดุกัมมันตรังสีฉีดเข้าไปในหลอดเลือดช่วยให้มองเห็นความผิดปกติได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เนื่องจากกระดูกบริเวณที่มีปัญหาจะดูดซึมวัสดุชนิดนี้ได้เร็วกว่ากระดูกปกติ


การตรวจไขกระดูก

สำหรับผู้ป่วยที่ตรวจพบมะเร็งกระดูกอีวิงซาร์โคม่า แพทย์อาจใช้การทดสอบชนิดนี้เพื่อดูว่ามะเร็งลุกลามไปยังไขกระดูกแล้วหรือยัง โดยจะใช้เข็มเจาะเข้าไปยังกระดูกเพื่อนำเอาตัวอย่างไขกระดูกออกมาส่งตรวจต่อไป

หลังจากการตรวจร่างกายและตรวจเพิ่มเติ่มข้างต้นแล้ว แพทย์จึงจะประมวลผลได้ว่ามีการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งหรือไม่และกระจายไปที่ใด ซึ่งจะบ่งบอกถึงระยะของมะเร็งกระดูกในครั้งนี้ได้ด้วย โดยมะเร็งกระดูกแบ่งได้เป็น 4 ระยะ ดังนี้

    ระยะที่ 1 เซลล์มะเร็งยังไม่แพร่กระจายออกจากกระดูกและมีเซลล์มะเร็งชนิดแบ่งตัวต่ำ
    ระยะที่ 2 มะเร็งยังคงไม่แพร่กระจายออกจากกระดูกแต่มีเซลล์มะเร็งชนิดแบ่งตัวสูง
    ระยะที่ 3 มีเซลล์มะเร็งเกิดขึ้น 2 แห่งขึ้นไปบนกระดูกแนวเดียวกัน ซึ่งอาจมีเซลล์มะเร็งชนิดแบ่งตัวสูงหรือต่ำก็ได้
    ระยะที่ 4 มะเร็งแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นในร่างกาย เช่น กระดูกบริเวณอื่น ๆ หรือตามอวัยวะภายใน


การรักษามะเร็งกระดูก

โอกาสของการรักษามะเร็งกระดูกให้หายขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของมะเร็งกระดูก ถ้าเป็นระยะที่มะเร็งลุกลามไปยังอวัยวะอื่น ๆ ในร่างกายแล้วนั้นค่อนข้างยากต่อการรักษา จึงอาจเป็นการรักษาเพื่อประคองอาการและชะลอการลุกลามของมะเร็งเท่านั้น

แพทย์จะแนะนำวิธีการรักษามะเร็งดูกโดยคำนึงถึงชนิดของโรคมะเร็งกระดูก ระยะการลุกลามของมะเร็ง ความพร้อมทางด้านสุขภาพโดยรวม และความพอใจของตัวผู้ป่วยเอง อาจเลือกใช้การผ่าตัด การทำเคมีบำบัด หรือการใช้รังสีบำบัดวิธีใดวิธีหนึ่ง หรืออาจใช้ควบคู่กันไปหลายวิธีก็ได้


การผ่าตัด

การผ่าตัดมีจุดประสงค์เพื่อนำมะเร็งกระดูกออกมาทั้งหมด ซึ่งมีทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่

    การผ่าตัดเพื่อนำกระดูกที่มีเซลล์มะเร็งออกแต่ยังคงแขนและขาไว้ (Limb-Sparing Surgery) ใช้ในกรณีที่สามารถแยกมะเร็งกระดูกออกจากเส้นประสาทและเนื้อเยื่ออื่น ๆ ได้ โดยแพทย์นำกระดูกจากส่วนอื่นของร่างกายหรือกระดูกเทียมมาใส่แทนที่กระดูกที่เสียไป
    การผ่าตัดแขนและขา (Amputation) ผู้ป่วยที่มีมะเร็งขนาดใหญ่หรือเป็นมะเร็งที่เกิดขึ้นบริเวณที่ซับซ้อน อาจต้องใช้การผ่าตัดเพื่อนำแขนหรือขาส่วนนั้นออกไปด้วย แต่ปัจจุบันวิธีนี้ไม่ค่อยนิยมใช้แล้วเนื่องจากมีการพัฒนาวิธีการรักษาอื่น ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องตัดแขนหรือขาออกไป
    สำหรับมะเร็งที่เกิดขึ้นในบริเวณอื่นที่ไม่ใช่แขนหรือขา แพทย์อาจนำกระดูกและเนื้อเยื่อรอบ ๆ ออก หรือนำบริเวณที่มีเซลล์มะเร็งออกแต่เหลือกระดูกไว้ให้มากที่สุด แล้วใช้กระดูกจากส่วนอื่นหรือกระดูกเทียมแทนที่เช่นกัน


การทำเคมีบำบัด

เคมีบำบัดคือการรักษาด้วยการให้ยาฆ่าเซลล์มะเร็งแก่ผู้ป่วย โดยจะให้ผ่านทางเส้นเลือดและยานี้จะแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย การทำเคมีบำบัดนี้ยังใช้รักษาผู้ป่วยที่มะเร็งลุกลามจากกระดูกไปสู่ส่วนอื่น ๆ ของร่างกายแล้วได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม การทำเคมีบำบัดอาจส่งผลให้เซลล์ปกติถูกทำลายไปด้วย และเกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ตามมา เช่น ผมร่วง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย อ่อนเพลีย เสี่ยงต่อการติดเชื้อ รวมถึงการเกิดภาวะมีบุตรยาก และมีโอกาสที่ผู้ป่วยจะเป็นหมันอย่างถาวร ซึ่งทีมแพทย์จะมีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงของภาวะนี้


การใช้รังสีบำบัด

การฉายแสงหรือการฉายรังสีคือการใช้คลื่นแสงพลังงานสูง เช่น รังสีเอกซเรย์ เพื่อช่วยกำจัดเซลล์มะเร็ง ขณะที่ผู้ป่วยนอนลงบนโต๊ะ เครื่องจะหมุนไปโดยรอบและส่งรังสีไปยังเซลล์มะเร็ง วิธีนี้มักใช้ร่วมกันกับการทำเคมีบำบัด โดยแพทย์จะฉายรังสีก่อนแล้วจึงตามด้วยการทำเคมีบำบัด

นอกจากนี้ แพทย์อาจใช้การฉายรังสีลดขนาดก้อนมะเร็งก่อนผ่าตัด ช่วยให้การผ่าตัดทำได้ง่ายขึ้น เพิ่มโอกาสการรักษาโดยไม่จำเป็นต้องตัดแขนและขาของผู้ป่วย รวมถึงการใช้รังสีฆ่าเซลล์มะเร็งที่หลงเหลือหลังจากผ่าตัด ส่วนในรายที่อาการรุนแรงแพทย์จะช่วยหาวิธีประคองอาการและบรรเทาความเจ็บปวดจากมะเร็งที่เกิดขึ้น

เช่นเดียวกับการทำเคมีบำบัด การฉายรังสีอาจทำให้เซลล์ปกติโดยรอบถูกทำลายไปด้วย และก่อให้มีอาการข้างเคียง เช่น เจ็บข้อต่อบริเวณที่มีการรักษามะเร็ง ผิวหนังได้รับความระคายเคืองหรือเป็นผื่นแดง รู้สึกอ่อนเพลีย ผมหรือขนบริเวณที่ฉายรังสีร่วง


การใช้ยาแก้ปวด

อาการเจ็บปวดรักษาด้วยการใช้ยาบรรเทาปวด ซึ่งมีทั้งที่สั่งจ่ายโดยแพทย์และสามารถหาซื้อได้เอง โดยยาที่ใช้ระงับอาการเจ็บเล็กน้อยถึงปานกลาง ได้แก่ ยาพาราเซตามอล ไอบูโพรเฟน นาพร็อกเซน และยาลดการอักเสบกลุ่ม NSAIDs ทั้งนี้ ผู้ที่กำลังทำเคมีบำบัดอาจจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการใช้ยากลุ่ม NSAIDs เพราะจะทำให้เสี่ยงต่อการมีเลือดออกได้

ด้านยารักษาอาการเจ็บปวดระดับปานกลางไปจนถึงเจ็บปวดรุนแรง แพทย์จะสั่งจ่ายยากลุ่มโอปิออยด์ ยาแก้ปวดชนิดเสพติดที่มีฤทธิ์รุนแรงกว่า เช่น มอร์ฟีน (Morphine) โคเดอีน (Codeine) และเฟนทานิล (Fentanyl) โดยบางครั้งอาจใช้หลายตัวยาควบคู่กัน อย่างไรก็ตามยาแก้ปวดกลุ่มโอปิออยด์นี้อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงอย่างอาการง่วงซึม และไปกดระบบประสาทที่ควบคุมการหายใจ ทำให้คลื่นไส้ และท้องผูกได้


ภาวะแทรกซ้อนของมะเร็งกระดูก

โรคมะเร็งกระดูกสามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ดังนี้

    อาการปวด มักเกิดขึ้นบริเวณที่มะเร็งก่อตัวขึ้น ทำให้มีอาการเจ็บเป็นพัก ๆ ในช่วงแรก และค่อย ๆ รุนแรงขึ้นในเวลาต่อมาหรือเมื่อทำกิจกรรมใด ๆ
    กระดูกแตกหัก พบได้บ่อยรองลงมาจากอาการปวด เนื่องจากกระดูกที่มีเซลล์มะเร็งมักอ่อนแอลงเรื่อย ๆ และง่ายต่อการแตกหักเมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือมีแรงกระทบ ผู้ป่วยที่มีอาการแทรกซ้อนจากมะเร็งกระดูกชนิดนี้มักรู้สึกปวดอย่างรุนแรงบริเวณที่เกิดเซลล์มะเร็ง และตามมาด้วยการแตกหรือหักของกระดูก
    ระดับแคลเซียมในเลือดเพิ่มสูงขึ้น ภาวะแทรกซ้อนที่อาจส่งผลให้กระดูกอ่อนแอลง ท้องผูกหรือเกิดนิ่วในไตตามมา รวมทั้งกระทบต่อการทำงานของหัวใจและสมองจนเกิดอาการสับสน มึนงง และอ่อนเพลีย
    กระดูกอักเสบ ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาโรคมะเร็งกระดูกอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อและอักเสบของกระดูก ส่งผลให้มีอาการหนาวสั่น เป็นไข้ มีอาการเจ็บ หรือเป็นอันตรายร้ายแรงถึงชีวิตตามมาหากไม่ได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ
    การแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง เซลล์มะเร็งแพร่กระจายไปยังอวัยวะส่วนอื่น ๆ ในร่างกายผ่านกระแสเลือดหรือระบบน้ำเหลืองที่เป็นกลไกป้องกันของร่างกาย โดยอวัยวะที่พบการแพร่กระจายของมะเร็งมากที่สุดก็คือปอด

การป้องกันมะเร็งกระดูก

เนื่องจากในปัจจุบัน ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดมะเร็งกระดูก จึงยังไม่มีวิธีป้องกันที่ยืนยันได้ว่าจะสามารถช่วยป้องกันโรคนี้ได้ผล

 























































รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ทำ SEO ติด Google
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี

รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ

smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย

เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า